เคยแปลกใจไหมว่าทำงานมาตั้งหลายปีแล้วทำไมเก็บเงินไม่ได้เลย เคยกลัวบ้างไหมว่าวันหนึ่งหากมีปัญหาตกงานขาดรายได้ หรือเจ็บป่วยต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลจะทำอย่างไร? ยังมีอีกไหมที่ทำงานมีเงินเดือนแล้วแต่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่ทุกเดือน แต่งงานมีครอบครัวแล้วแต่ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ญาติพี่น้องเรื่องเงินตลอดเวลา เคยแปลกใจไหมว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น คำตอบง่ายๆ คือ ไม่ใส่ใจเรื่องการออม ไม่เห็นความสำคัญของการออม รู้สึกว่าการออมทำให้ชีวิตลำบาก คิดว่าเงินเดือนน้อยออมไม่ได้ พ่อแม่ร่ำรวยเลยไม่รู้จะออมไปทำไม รอเงินเดือนมากหน่อยแล้วค่อยออม ฯลฯ นี่คือสัญญาณอันตรายทางด้านการเงินในอนาคตของคนที่มีความคิดดังกล่าว
หาเงิน ออมเงิน ใช้เงิน หลายคนทำได้เพียงสองข้อคือ หาเงินและใช้เงิน ไม่เคยสัมผัสคำว่าออมเงิน คือ เป็นคนมองโลกแง่ดีมากๆ มีงานทำมีเงินเดือนทุกเดือน ทำไปเรื่อยๆ เงินเดือนก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่ลืมมองอีกด้านหนึ่งว่าเราก็ต้องอายุมากขึ้นทุกวันอาจเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ หรือบริษัทมีปัญหาอาจลดพนักงาน เราก็มีสิทธิตกงานได้ งานใหม่ก็ใช่ว่าจะหาได้ทันควัน ช่วงนั้นจะทำอย่างไรถ้าไม่มีเงินเก็บไว้บ้าง วงจรของชีวิตคนเราจะไปอีกไกล และตลอดเส้นทางเงินเป็นปัจจัยสำคัญพอสมควรทีเดียวที่จะพาชีวิตเราดำเนินไปอย่างมีความสุข ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ เรามาตัดสินใจออมกันตั้งแต่วันนี้ดีกว่า ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นการออมในขณะที่ยังมีรายได้อยู่ แต่อาจจะต้องหนักหน่อยกว่าจะถึงเป้าหมายหากเริ่มช้า แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่ม และเพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายการออมคงต้องมีกฎเหล็กกันหน่อยเพื่อเป็นกติกาช่วยให้เราไปถึงดวงดาว
1. บอกตัวเองให้เริ่มต้นการออมให้เร็วที่สุด เช่น เมื่อเริ่มทำงานได้รับเงินเดือนเดือนแรก ควรกำหนด แผนการออมและเป้าหมายเงินออมที่ต้องการ เพราะเรามีเวลาการออมประมาณ 38 ปีเท่านั้น
2. บอกตัวเองให้เก็บก่อนใช้ แบ่งเงินให้ดีจะออมเท่าไร? ต่อเดือน กำหนดวงเงินให้ ชัดเจน และบริหารเงินที่เหลือให้เพียงพอใช้จ่าย
3. บอกตัวเองให้ออมให้ได้มากที่สุด เพื่อเพียงพอสำหรับอนาคตและชีวิตหลังเกษียณ
4. บอกตัวเองให้ออมอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะไม่แก้ปัญหาด้วยการหยุดการออม
5. บอกตัวเองให้เลือกเครื่องมือการออมให้เหมาะสม เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายการออมได้ทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว
6. บอกตัวเองจะไม่ก่อหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัว ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายให้เหมาะสม
7. บอกตัวเองว่าจะไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่นในเรื่องการเงิน
จริงๆ แล้วกฎเหล็กทั้ง 7 ข้อนั้น เปรียบเสมือนคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้กับตัวเองเพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายในการออม หากเราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเราก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้ไม่ยาก แต่หากเราไม่ใส่ใจปฏิบัติตามโอกาสไปถึงดวงดาวก็คงยาก ประโยชน์จากการออมไม่ได้ตกอยู่ที่ใคร เป็นประโยชน์ของเราเองทั้งนั้น จะเริ่มออมได้หรือยัง? คงต้องถามตัวเอง.
http://money.impaqmsn.com/contentid10444ch244.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น