วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขายหมูจนได้

chinese new year Graphics


ผมว่าทุกคนคงเคยแหละแบบว่าเวลาเราลงทุน แล้วเงินในพอร์ตลงทุนของเรามันลดลง 10%...15%...20%...ในที่สุดทนไม่ไหว ขายมันซะเลย สบายใจไม่ต้องคิดมาก ถ้าไม่ขายเงินมันจะทำงานถอยหลัง เราจะขาดทุนซะมากกว่า ดูไปแล้วมันเป็นอารมณ์มากกว่าเหตุผลซะอีก


ผมเข้าตลาดหุ้นมาแบบเด็กน้อยหรือแบบแมลงเม่าตัวเล็กๆตัวหนึ่ง เจอพายุเจอฝนเข้าหน่อยแล้วปีกมันชักหนักบินไม่ค่อยขึ้นเซไปเซมา ผมเลยหาหนังสือต่างๆอ่านมากมาย แต่มันก็เท่านั้นถ้าไม่ได้ลองสนามจริง ผมเริ่มเก็บเงินเล็กๆน้อยๆมาลงทุน ความตั้งใจครั้งแรกของผมจะลงทุนระยะยาวแบบว่า มากกว่า 5 ปีขึ้นไป อย่างไงหุ้นก็เป็นสินทรัพย์มันต้องขึ้นทุกปีตามเงินเฟ้อ ไหนจะเงินปันผลอีก อย่างไงหุ้นมันก็น่าลงทุนระยะยาวจริงๆครับ


ผมก็เริ่มเก็บเล็กผสมน้อยแบบว่าทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ เลือกลงทุนแบบชาว vi โดยผมวิเคราะห์เองแบบมั่วๆ 555 เงินลงทุนของผมก็อยู่ในรูปแบบตราสารทุนผ่านไปเป็น เดือน...3เดือน...6เดือน ราคามันก็กระดิกลงแบบค่อยๆลง ผมก็ช้อนซื้อเอาเพราะราคามันถูกลงได้จำนวนหุ้นมากขึ้น แอบดีใจ (หรือเสียใจดี 555)


ไม่นานผมก็เริ่มดูเงินในพอร์ตมันลดลงไปเกิน10% แล้วใจมันเริ่มหวั่นไหว แต่ก็ไม่ขายหรอกครับเพราะมันขาดทุนและผมก็จะลงทุนยาวซะด้วย ผมก็ช้อนซื้อต่อไป เพราะราคามันลดลงมากๆ ไม่นานเกินรอผ่านไปอีกแค่เดือนเดียวราคาลดลงมากกว่า 15% ผมลังเลแล้วก็ขายไปในที่สุด 555 ขาดทุนไปเต็มๆ

มันเกิดจากอารมณ์มากกว่าเหตุผล เพราะพื้นฐานของบริษัทยังดีอยู่เลย พอมาดูวันนี้หุ้นที่ผมเคยเล่น ถ้าผมถืออยู่ผมกำไร ประมาณ 10% ต่างจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ไม่ค่อยจะขายหุ้นเอาเลย ถือนานมาก จนแกรวยเอาเป็นอันดับต้นๆของโลก

บทเรียนครั้งนี้เกิดจาก ความไม่นิ่งพอ หวั่นไหวตามอารมณ์รู้อยู่แล้วว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยน ถือว่าเป็นเงินค่าร่ำเรียน ที่ต้องจดจำไปอีกนานเลยครับ (เจ็บใจ 555)
[จำไว้ว่าราคาหุ้นในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าถูกหรือแพง มันขึ้นอยู่ที่ความพอใจของคนตั้งหากว่ามันถูกหรือแพง]

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Link-Seed

  • Link-Seed - ผมได้รวบรวมลิงค์ "การเงิน-การลงทุน" ที่ผมสนใจมาแปะเอาไว้ในบล็อก Link-Seed เพื่อเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูลข่าวสาร และนำมาพิจารณาการลงทุนอีกทีหนึ่ง เพื่อนๆ ...
Custom Search
 
Financeseed Copyright © 2009 Blogger Template Designed by Bie Blogger Template