วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำอย่างไรจะมีเงินเก็บ

chinese new year Graphics


ดัดแปลงจากบทความ “ทำอย่างไรให้มีเงินออม” และ “พร้อมที่จะลงทุน” เคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า ตัวเราจะต้องทำงานไปจนถึงอายุเท่าไหร่จึงจะมีเงินไว้ใช้สอยอย่างสุขสบายตามฐานะ ส่งลูกเรียนหนังสือโดยไม่ลำบากได้ ไม่เป็นหนี้เป็นสินกับใคร และไม่ลำบากในยามแก่ชรา มีเงินเหลือพอที่จะเป็นค่ารักษาพยาบาล คำถามง่ายๆ แบบนี้ หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ หลายคนอาจจะมีคำตอบแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือ ทำอะไร และหากว่าคุณเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงานที่ไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานตัวเป็นเกลียว เคยตั้งคำถามให้กับตัวเองไหม
งานประจำไม่ทำให้คนรวยได้ จริงหรือไม่

การตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป แต่กลับไม่มีเงินเก็บออม หนำซ้ำในบางครั้งก็ยังคงมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ ต้องประสบปัญหาทางการเงินถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสิน ถ้าหากเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นกับคุณแล้วละก็ คุณต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว เพื่ออนาคตข้างหน้า

การที่จะมีเงินเก็บออมได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งแรกที่คุณต้องลงมือทำก็คือ การรู้จักวิธีวางแผนทางการเงินเสียก่อน โดยในขั้นแรกคือการจัดสรรเงินที่มีอยู่ให้พอเพียงกับวิถีชีวิตของคุณเอง ดูว่าคุณมีภาระค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประจำวัน พยายามใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเสียก่อน ให้เหลือเงินและกันส่วนที่เหลือไว้เป็นเงินออมให้มากที่สุดโดยไม่ลำบากกับชีวิตประจำวันมากนัก และหากเงินที่หาได้ในแต่ละเดือนไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีอยู่แล้วคุณมีทางเลือก 2 ทาง

ทางแรกคือการเพิ่มรายได้ หาอาชีพเสริม เพื่อจะได้มีรายรับที่เพิ่มมากขึ้น และ ทางที่สอง คือการหาทางลดค่าใช้จ่ายที่เป็นอยู่ อะไรที่เป็นสิ่งของฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไปบ้าง ถ้าคิดว่าจำเป็นทุกอย่าง ควรตัดสิ่งจำเป็นน้อยกว่าออกไปหรือลดการใช้จ่ายสิ่งจำเป็นลง ทนลำบากซักหน่อย

หลังจากนั้นแล้วก็เริ่มกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินออม เงินออมนี้โดยทั่วไปแล้วมีไว้ก็เพื่อวัตถุประสงค์หลักๆ 3 อย่าง

1. การสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น คุณหรือบุคคลในครอบครัวอาจมีเหตุให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นการด่วน เงินออมในส่วนนี้แนะนำให้มีไว้อย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน

2. การออมเพื่อวัตถุประสงค์ระยะยาว เช่น หากคุณมีครอบครัวแล้วก็จำเป็นจะต้องมีการออมเพื่อการศึกษาของลูกๆ ในวันข้างหน้า

3. การออมไว้ใช้ในยามเกษียณ เมื่อถึงวัยหนึ่งที่คุณไม่ทำงานอีกต่อไปแล้ว คุณจะได้มีเงินจับจ่ายใช้สอยต่อไปอย่างไม่ลำบาก และไม่เป็นภาระของใครๆ

เมื่อมีเงินที่เก็บออมมาได้ระยะหนึ่งและพอจะตั้งต้นลงทุนได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องทำการสำรวจตนเอง ประเมินตนเองแล้วว่ามีจุดมุ่งหมายในการลงทุนอย่างไร ชัดเจนหรือไม่ เช่น เพื่อการศึกษาของลูกๆ หรือเพื่อวางแผนชีวิตเกษียณ เป็นต้น เพราะแน่นอนว่าเมื่อนำเงินมาลงทุนหาประโยชน์ให้งอกเงยแล้ว ย่อมจะต้องการ “ผลตอบแทน” ที่ดีจากการลงทุน แต่สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องไม่หลงทางไปกับคำว่า “ผลตอบแทน” เสียก่อน เพราะผลตอบแทนนั้นย่อมมี “ความเสี่ยง” ตามติดมาด้วยทุกคราไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องถามตัวเองว่า เป้าหมายที่ต้องการจากการลงทุนที่แท้จริงคืออะไร ขณะนี้คุณอายุเท่าไหร่ คุณแบกรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ในแต่ละช่วงชีวิตนั้นมีเป้าหมายอย่างไร หากเกิดความผิดพลาดแล้ว ยังจะกลับมาแก้ไขได้ทันไหม ทั้งนี้ ก็เพื่อกำหนดกรอบการลงทุนของตนเองในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้นั่นเอง

ข้างต้นนั้นคนที่คิดเป็นทำเป็นอาจจะไม่ลำบากแต่หากเป็นชาวบ้านทั่วไปคิดไม่ออกไม่รู้วิธีจัดการเพราะการที่จะต้องกันเงินออกหลายๆ ส่วนจะเหลือเป็นเงินก้อนส่วนน้อยนิดวางกองตรงหน้า มิหนำซ้ำ เงินก้อนที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการอีก

หลักการง่ายๆ คือ หารายได้เสริมเท่าที่พอจะมีแรง อย่าเกี่ยงงาน เงินล่องลอยอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ เพียงแต่เราจะรู้วิธีไขว่คว้ามาให้ได้อย่างไรเท่านั้น การออม ไม่ใช่เป็นการเก็บครั้งสองครั้งแล้วเห็นผล แต่หมายถึง การเก็บทีละเล็กละน้อยและมุ่งมั่นที่จะเก็บ ลองทำดูว่า การบังคับตัวเองเก็บเงินวันละร้อยสองร้อยบาทไปเรื่อยๆ เหมือนหยอดกระปุก ความคิดที่ว่า ทำอย่างไรจะมีเงินเก็บ ก็จะหายไปจากหัวสมอง

ที่มา :http://www.cheapestav.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Link-Seed

  • Link-Seed - ผมได้รวบรวมลิงค์ "การเงิน-การลงทุน" ที่ผมสนใจมาแปะเอาไว้ในบล็อก Link-Seed เพื่อเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูลข่าวสาร และนำมาพิจารณาการลงทุนอีกทีหนึ่ง เพื่อนๆ ...
Custom Search
 
Financeseed Copyright © 2009 Blogger Template Designed by Bie Blogger Template